Admin เผยแพร่ 29 มีนาคม 2567
ขงเบ้งลูกหนังชาวเยอรมัน เขาคือใคร? ทำไมปีศาจแดงถึงตัดสินใจฝากอนาคตฤดูกาลนี้ไว้ในมือเขา เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
ชื่อของ ราล์ฟ รังนิค กลายเป็นที่สนใจไปทั่วโลกภายในเวลาชั่วข้ามคืน หลังกำลังจะเข้ามาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก
ปีศาจแดงเพิ่งแยกทางกับ โอเล กุนนาร์ โซลชา หลังทำผลงานได้ย่ำแย่ โดยมีชื่อของกุนซือชื่อดังมากมายทั้ง ซีเนดีน ซีดาน, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน, เอริค เทน ฮาก หรือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แต่กลายเป็นกุนซือจอมเก๋าชาวเยอรมันที่พลิกโผคว้าตำแหน่งเผือกร้อนชิ้นนี้แบบชั่วคราวด้วยสัญญาจบฤดูกาลนี้
แม้ในฐานะนักเตะเขาอาจไม่ได้มีผลงานเข้าตานัก แต่ในฐานะโค้ชเขาคือคนที่ได้รับการยกย่องอย่างมาก โดยเฉพาะในเยอรมันที่เขาได้รับฉายาว่า "ศาสตราจารย์" และมีส่วนในการปลุกปั้นสองกุนซือชื่อดังในเวลานี้อย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ และ โธมัส ทูเคิล
GOAL ขอพาไปทำความรู้จักประวัติและปรัชญาของขงเบ้งลูกหนังจากเมืองเบียร์รายนี้กันให้มากขึ้น
ราล์ฟ รังนิค เคยคุมทีมใดบ้าง?
รังนิค เริ่มเส้นทางสายโค้ชตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นการคุมทีมในเยอรมัน ซึ่งมีชื่อของทีมดังอย่าง สตุ๊ตการ์ท, ชาลเก้, ฮันโนเวอร์, ฮอฟเฟนไฮม์ และ ไลป์ซิก รวมอยู่ด้วย
ทีม |
ปี |
วิคตอเรีย แบคนัง |
1983-85 |
สตุ๊ตการ์ท II |
1985-87 |
ลิปป์โวลด์สเวเลอร์ |
1987-88 |
เอสซี คอร์บ |
1989-90 |
สตุ๊ตการ์ท U19 |
1990-94 |
ร็อยท์ลิงเงิน |
1995-96 |
เอสเอสวี อุล์ม |
1997-99 |
สตุ๊ตการ์ท |
1999-2001 |
ฮันโนเวอร์ |
2001-04 |
ชาลเก้ |
2004-05 |
ฮอฟเฟนไฮม์ |
2006-11 |
ชาลเก้ |
2011 |
ไลป์ซิก |
2015-16 |
ไลป์ซิก |
2018-19 |
นอกเหนือจากบทบาทโค้ช รังนิค ยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลให้กับทีมภายใต้องกรณ์ของ Red Bull ทั้ง ซัลซ์บวร์ก, ไลป์ซิก และ นิวยอร์ค เรดบูลล์ส
รวมถึงยังเคยร่วมงานกับ โลโคโมทีฟ มอสโกว ทีมดังแห่งรัสเซียในฐานะผู้จัดการทีมด้วย ชื่อเสียงของเขาเป็นที่ยอมรับไปทั่วยุโรปและมีข่าวเชื่อมโยงกับบิ๊กทีมอย่าง เอซี มิลาน, เชลซี, แมนฯยูไนเต็ด รวมถึงทีมชาติเยอรมันอยู่ตลอด
รังนิค ได้แชมป์อะไรมาบ้าง?
รังนิค คว้าแชมป์มาแล้ว 7 รายการตลอดเส้นทางอาชีพโค้ช ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเขาในส่วนของถ้วยรางวัลคงเป็นกับ ชาลเก้ ที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ เดเอฟเบ ลีกาโพคาล, เดเอฟเบ โพคาล และ เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ
นอกจากนี้เขายังพา สตุ๊ตการ์ท คว้าแชมป์อินเตอร์โตโต้ในปี 2000 โดยก่อนหน้านั้นเขายังช่วยให้ทีมเยาวชนของม้าขาวคว้าแชมป์ลีกเยาวชนในปี 1991 ด้วย
แชมป์ |
ปี |
เดเอฟเบ โพคาล |
2010-11 |
DFL ซูเปอร์คัพ |
2011 |
DFL ลีกาโพคาล |
2004-05 |
อินเตอร์โตโต้ คัพ |
2000 |
บุนเดสลีกา 2 |
2001-02 |
Regionalliga |
1997-98 |
บุนเดสลีกา U19 |
1990-91 |
ปรัชญาฟุตบอลของ ราล์ฟ รังนิค คืออะไร?
รังนิค เป็นผู้นำเสนอรูปแบบฟุตบอล "เกเก้นเพรสซิ่ง" ที่ได้รับความรู้จักอย่างมากในสมัยที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ คุมทัพ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
เป็นรูปแบบการเล่นที่กดดันคู่แข่งเพื่อแย่งบอลคืนกลับมาให้เร็วที่สุด ควบคู่ไปกับการเล่นเกมรับที่แน่นหนาเพื่อป้องกันเกมสวนกลับ
โดย รังนิค เคยอธิบายปรัชญาลูกหนังของเขาผ่านรายการ The Coaches' Voice ไว้ว่า "มันเป็นเรื่องของการควบคุมเกม เรามีห้าสถานการณ์ที่สามารถตัดสินเกมฟุตบอลได้เลย"
"ในฐานะโค้ช คุณต้องมีไอเดียที่ชัดเจนว่าต้องการเล่นอย่างไรเมื่อเราได้ครองบอล"
"ข้อสองคือ เราจะทำอย่างไรเมื่อคู่แข่งได้บอล? ผมมีแผนอะไรที่จะบอกนักเตะเมื่อทีมอื่นได้ครองบอล? ไอเดียของเราชัดเจน มันคล้ายกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ เพื่อนของผม ฟุตบอลของ เรดบูลล์ เป็นแบบเฮฟวีเมทัล, ร็อคแอนด์โรล ไม่ใช่เพลงช้า เราเกลียดการจ่ายบอลขวางสนามและจ่ายบอลกลับหลัง แค่ครองบอลอย่างเดียวมันดูไม่สมเหตุสมผล"
"จากนั้นเราก็ต้องมีช่วงของการเปลี่ยนเกม จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราเสียบอล และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราได้บอลกลับมา? นี่คือข้อสามและสี่"
"จากนั้นเป็นเรื่องของลูกตั้งเตะ นี่เป็นส่วนสำคัญมาก ถ้า 30% ของประตูเกิดขึ้นจากูกตั้งเตะ เราควรลงทุนกับลูกตั้งเตะสักกี่เปอร์เซ็นต์? ร้อยละสามสิบเลยนะ"
ปีศาจแดง โฉมใหม่ภายใต้การกุมบังเหียนของ รังนิค จะออกมาในรูปแบบไหน จะเป็นแบบเฮฟวีเมทัลที่เขาต้องการหรือเพลงช้าชวนง่วงนอน อีกไม่นานเราจะได้รู้กัน...
แชร์บทความ